วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ไขความลับแห่งความสำเร็จ

พี่เบิร์ดบล็อก > ไขความลับแห่งความสำเร็จ
ไขความลับแห่งความสำเร็จ

เคล็ดลับที่จะนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จของชีวิต โดยเชื่อใน “Law of Attraction” กฎแห่งการดึงดูด เพราะจิตของเรามีพลังอำนาจมหาศาล พูดง่ายๆก็คือ ให้คิดแต่สิ่งที่ดี แล้วสิ่งดีๆ จะถูกดึงดูดเข้ามาหาเราเอง

ความสำเร็จ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ เราต้องเข้าใจใน 3 กระบวนการ ดังนี้

กระบวนการที่ 1 : Attraction Process หรือ กระบวนการสร้างแรงดึงดูด

โลก ของเรามีแรงดึงดูด ที่เป็นพลังงานที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่พวกเราสามารถสัมผัสมันได้ ผ่านกระบวนการเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ตัวเราเองก็สามารถสร้างแรงดึงดูดได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่จะวิ่งเข้ามาหาเรา..คุณต้องการสิ่งที่ดีหรือไม่ดีหละ คงไม่มีใครต้องการสิ่งไม่ดี และคงไม่มีใครไม่ต้องการสิ่งดีดี ทุกคนต่างต้องการสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพ ทรัพย์สินเงินทอง หน้าที่การงาน ต่างๆก็ล้วนแต่ต้องการสิ่งดีดี ทีนี้เราจะสร้างแรงดึงดูดอย่างไร ให้มีแต่สิ่งดีดีเข้ามาหละ

The secret ได้บอกหลักสำคัญๆของแหล่งแรงดึงดูดสิ่งดีดี ไว้ดังนี้

thesecret1.1 การคิดเชิงบวก (positive thinking): ทุก ความคิดมีแรงดึงดูด เคยสังเกตุมั๊ยว่า หากเราคิดคำนึ่งหรือกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ่อยๆๆ เรื่องนั้นก็มักเกิดขึ้นจริง ดังนั้น หากเราเปลี่ยนความคิดจากการคิดถึงสิ่งที่ไม่ดีบ่อยๆ เป็นคิดถึงแต่สิ่งที่ดีดี บ่อยๆ คลื่นความคิดเราก็จะแปรเปลี่ยนเป็นแรงดึงดูด ดูดสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต

1.2 รู้เท่าทันความคิดของตัวเอง : เหมือน เป็นการมีสติ กำหนดรู้ว่า ขณะนี้เราคิดอะไร คิดดีหรือคิดเลว เมื่อเรารู้เท่าทันความคิดเราเมื่อไหร่ เราก็สามารถคัดแยกความคิดเลวออกจากความคิดดีได้ ทำให้เรามีโอกาสที่จะยับยั้งความคิดเลว และดำเนินความคิดดีดีต่อไป สร้าง คิดดี อารมณ์ดี โดย รู้จักมีความพึงพอใจ (Satification) รู้จักชื่นชมผู้อื่น (Appriciation) มีความหวัง (Hope) มีความสุข (Happiness) รู้จักสนุก ร่าเริง(Joy) รู้จักขอบคุณ (Gratitude) รู้จักรักทั้งตัวเอง ผู้อื่น และสิ่งอื่นรอบตัว (Love) เป็นต้น ละทิ้ง ความคิดเลว อารมณ์เลว โดย ตัดความหวาดกลัว (Fear) ความกดดัน เครียด(Depression) ผิดพลาดเลอะเทอะ (Fault) ไม่พอใจขุ่นเคือง (resentment) ความเกลียด (Hate) ความโกรธ (Angry) การตำหนิติเตียน (Criticism) การกล่าวโทษนินทา (Blame) เป็นต้น

1.3 เริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดีดี : คุณ เคยสังเกตุมั๊ย หากวันไหนคุณตื่นมาพร้อมอารมณ์ที่ขมุกขมัว วันนั้น คุณอาจปวดหัว อะไรก็ดูช่างหงุดหงิดในสายตาของคุณไปเสียทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นคน การจราจร หรือ สิ่งแวดล้อมต่างๆ แต่ในทางกลับกัน หากคุณสามารถตื่นขึ้นมาพร้อมกันความรู้สึกดีดี สมองคุณก็จะแจ่มใส จิตใจก็จะเบ่งบาน พร้อมที่จะมีสติรับรู้เรื่องราวต่างๆในวันนั้น ได้อย่างต่อเนื่องและมีสมาธิในการไตร่ตรองแยกแยะ พิจารณาสิ่งที่ ผิด ถูก ชั่ว ดี ได้ไม่ยาก ซึ่งเมื่อคุณได้กรองและเลือกที่จะรับแต่สิ่งดีดีแล้ว อารมณ์ก็จะดียิ่งขึ้น สิ่งที่แสดงออกมาจากตัวคุณ ก็ดี สิ่งที่คุณจะได้รับต่อไป ยิ่งดี

1.4 อย่าลังเลกับสิ่งที่จะลงมือทำ : สิ่ง ดีดี โอกาสคอยเราอยู่เสมอ เมื่อเราสามารถสร้างแรงดึงดูดได้แล้ว สิ่งที่สะท้อนกลับมา เมื่อเราหยุดคิดอย่างรอบคอบแล้ว อย่าลังเลที่จะรับ อย่าปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอย เพราะหากคุณไม่เริ่มผลคงไม่เกิด เราไม่จำเป็นต้องเห็นตลอดทั้งเส้นทางหรือเห็นทางทั้งหมด แต่หากคุณเริ่มและลองดู คุณอาจจะเห็นทางอีกหลายทางซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้

กระบวนการที่ 2 : Gratitute หรือ รู้จักขอบคุณ และชื่นชม

การรู้จักขอบคุณ ขอบคุณสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ สิ่งที่คุณมี สิ่งคุณเป็น ด้วยใจจริง ตัวอย่างเช่น แทน ที่คุณจะมองว่าของขวัญจากเพื่อนมูลค่าน้อยนิด คุณจงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่มีเพื่อนที่น่ารัก เพื่อนยังคิดถึงเราเสมอ แทนที่คุณจะน้อย ใจว่าพ่อแม่ดุว่า คุณจงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่ทุกวันนี้ยังได้ยินเสียงของพ่อแม่ และท่านยังได้มีทุกข์สุขร่วมกันเรา แทนที่คุณจะมองว่าอาหารมื้อนี้ น้อยเกินไป กินไม่อิ่ม คุณจงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่ทุกวันนี้คุณยังมีข้าวมีอาหารให้ได้กิน หากคุณสามารถมอง สิ่งรอบตัวในมุมที่ดีดีได้ คิดเชิงบวกกับสิ่งเหล่านั้นได้ และสามารถขอบคุณสิ่งเหล่านั้นได้ และชื่นชมอย่างจริงใจ คุณก็จะสามารถสร้างแรงดึงดูดดีดี ให้กับชีวิตคุณได้ไม่ยาก

กระบวนการที่ 3 : Visualize หรือ รู้จักสร้างภาพ

การ สร้างภาพในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการให้โกหกหลอกลวง สร้างภาพให้ดูดี ในสายตาคนอื่น แต่การสร้างภาพในที่นี้ หมายถึง การสร้างจิตนาการแห่งความหวังของคุณให้เป็นภาพออกมา เช่น หากคุณ ต้องการมีบ้านสวย คุณลองวาดภาพบ้านในฝันของคุณออกมาดูซิ คุณก็จะมีความหวัง แรงบันดาลใจ พลังในจิตใจให้เกิดความพยายามในการสร้างสรรค์แนวทางที่จะให้ได้มาซึ่งบ้านใน ฝันของคุณ ไม่เฉพาะสิ่งของ แม้แต่บุคคลหากเราฝันมันก็อาจเป็นจริง เชื่อได้ว่า ข้อนี้ ทุกคนก็คงเคยฝันถึง คนในอุดมคติ ที่คุณสามารถเอาเป็นแบบอย่างได้ ความลับข้อนี้ มันอาจถูกเปิดเผยมานานแล้ว แต่เพียงแต่เรายังไม่ทราบเท่านั้นเองว่า มัน คือ ช่องทางแห่งความสำเร็จ

คุยกันก่อนดีมั๊ยครับ

จะได้รู้ที่มาที่ไป และเริ่มสร้างจิ๊กซอหาเงินทางเน็ต แล้วต่อให้เป็นรูปที่สมบูรณ์
จะได้เข้าใจจุดเริ่มโลกหาเงินทางเน็ต ว่าโลกที่มันจ่ายจริงมีเยอะ
ไม่จ่ายจริง ก็มีเยอะ จะทำไรต้องสมเหตุผลครับ
ไม่ใช่ว่าจะไปนั่นคลิกดูโฆษณาเฉยๆ และหวังเงินก้อนโต
แบบนั้นไม่สมเหตุผลครับ …หาเงินทางเน็ตมันเป็น ศาสตร์ทำเงิน ที่ดีที่สุดในโลก
เป็นโลกที่ไม่มีวันหลับ เป็นงานแห่งเสรีภาพ เสรีภาพสร้างตัวตน ในชีวิต สร้างอิสระแห่งการใช้ชีวิต และการเติมเต็มความอบอุ่น ให้ครอบครัว

$$$ ปฎิวัติการทำงานแห่งยุคใหม่ !!! $$$

ระบบงานแห่งยุคใหม่ คุณยังจำได้ไหมว่า
อินเตอร์เน็ตพึ่งจะพัฒนามาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนี่เอง(เริ่มเข้ามาและมีบทบาท ประมาณปี 1996-97)
ด้วยเหตุนี้เอง ธุรกิจหรือการทำเงินทางเน็ต จึงเป็นวิชาใหม่ แต่ต่างจากงานสมัยเก่า ที่มุ่งจบมาเพื่อหาสมัครงาน เรียนจบมาเพื่อทำงาน (ผมว่าเรียนจบมา ขัดเกลาสมอง ฝึกใช้ความคิดแล้ว ควรเรียนจบมาเพื่อ สร้างงาน มากกว่าครับ ถ้าเรียนจบเพื่อทำงาน ก็เรียนจบเพื่อคอย รับคำสั่ง ว่าจะให้ทำงานอะไร เป็นลูกจ้าง อยู่ร่ำไป)
… งานทางเน็ต ตั้งอยู่บนพื้นฐานของโลกที่มีอิสรภาพงานด้านเวลา อิสรภาพงานด้านการเข้าถึงทั่วทั้งโลก
อิสรภาพด้านการเลือก makemoney หรือทำเงิน กับเว็บธุรกิจทำเงินต่างๆ และนี่คือพลังอันสำคัญที่ทำให้การทำเงิน ทำงาน ทางอินเตอร์เน็ตสร้างรายได้อย่างมหาศาลเว็บ เราสรรหาแต่เว็บจ่ายจริง !!! สอนฟรี ระบบโฆษณา หาเงินทางเน็ต ละเอียด สอนโดยการแนะนำผ่านเว็บ ท่านจะได้ความรู้ต่างๆมากมายจากการศึกษาในเว็บไซต์นี้ ในเว็บไซต์จะสอนท่าน ให้เข้าใจระบบหาเงินทางเน็ต มากมาย !!!

หาเงินทางเน็ต มีทั้งจริงและหลอก !!!
เว็บเราสรรหาแต่เว็บจ่ายจริง !!! สอนฟรี ระบบโฆษณา หาเงินทางเน็ต ละเอียด สอนโดยการแนะนำผ่านเว็บ ท่านจะได้ความรู้ต่างๆมากมายจากการศึกษาในเว็บไซต์นี้ ในเว็บไซต์จะสอนท่าน ให้เข้าใจระบบหาเงินทางเน็ต มากมาย !!!

01.รูปแบบการทำเงิน (เปรียบเทียบโลกเน็ต กับ โลกนอกจอ)

รูปแบบการทำเงิน Affiliate Model Make Money
…การเป็นตัวกลางในการช่วยเว็บธุรกิจหรือเว็บบริษัทต่างๆ ในการโฆษณา


…ขั้นตอนวิธีการ

1.วางแผนว่าจะโฆษณาอะไร
2.ทำสื่อโฆษณาขึ้นมา ในรูปแบบเว็บหรือ blog
3.ทำ ให้สื่อที่ทำขึ้นมานั้น คนเข้าเยอะ ทาง search หรือติด search ในลำดับต้นๆ
4.วิเคราะห์ว่าเมื่อคนเข้าเยอะๆแล้ว ผู้ที่เข้าเหล่านั้น สนใจในสื่อหรือสนใจในสิ่งที่เราโฆษณาหรือไม่ ถ้ามีการสนใจที่น้อย ก็วางแผน ออกแบบสื่อ หรือทำเว็บให้ข้อมูลที่จูงใจให้สนใจยิ่งขึ้น

…เปรียบเทียบโลกนอกจอ
เช่น ร้านขายเสื้อผ้า เป็นต้น

02.Affiliate Program หรือการช่วยบริษัทต่างๆ หรือเว็บธุรกิจต่างๆ ในการโปรโมท โฆษณา

… Affiliate Program หรือการช่วยบริษัทต่างๆ หรือเว็บธุรกิจต่างๆ ในการโปรโมท โฆษณา

… หัวใจการโฆษณาและการเริ่มต้น
… การพัฒนาทำเลเว็บไซต์
… Affiliate เพียงตัวเดียวก็รวยได้ ขึ้นกับสื่อในการแนะนำ
… จริงๆแล้ว อยากเรียกงานนี้ว่า งานทำสื่อโฆษณา
… องค์ประกอบของเว็บที่ดีควรมีครบ
… ทำให้คนเข้าเว็บถือว่าไม่ง่ายนัก แต่ยากยิ่งกว่าคือเมื่อเค้าเข้าแล้ว เค้าอยากกลับเข้ามาอีก

การเริ่มต้น ทำงานทางเน็ตนั้น
คุณควรมองโลกนอกจอ และในจอเกี่ยวข้องกัน ..หมายความว่า หากคุณไม่เคยได้รายได้ทางเน็ตเลย หลายคนอาจมองว่า ทางเน็ตเป็นเรื่องของ การกระทำหน้าจอ ไม่แน่นอน ไม่มั่นคง หามาตรฐานไม่ได้ …นั่นแสดงว่า คุณยังไม่เข้าใจโลกทางเน็ต ในเรื่องของการทำเงินเลย
… internet คือสื่อ !!! สื่อที่ไปได้ทั่วโลก สื่อที่ไม่มีวันหลับ !!!
..หลายธุรกิจนอกจอ ใช้ internet เป็นสื่อในการโฆษณา คุณเช็คเมล์ คุณเห็นโฆษณามั๊ย ? คุณเข้าเว็บต่างๆ คุณเห็นโฆษณามั๊ย ?
… การโฆษณามีประโยชน์หรือไม่ ศาสตร์ของการโฆษณา เป็นเรื่องที่น่าศึกษามาก
เพราะฉะนั้น ก่อนที่คุณจะเลือกที่จะโฆษณาอะไร คุณควรเข้าใจเสียก่อนว่า สิ่งที่คุณจะโฆษณานั้น มีรายได้อย่างไร และจะแบ่งจ่ายให้คุณอย่างไร และสมเหตุผลหรือไม่ในการแบ่งจ่าย

หัวใจของการโฆษณาก็เหมือนการตลาดทั่วๆไป ต้องหัดเปรียบเทียบกับโลกนอกจอ และใจเขาใจเรา หรือมองกลับกันเสมอ ระหว่างตัวเรา ซึ่งเป็นผู้โฆษณา และตัวเขา หรือกลุ่มเป้าหมายที่เราจะให้เขาสนใจโฆษณาด้วย

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อยากรวยต้องขายหนังสือeBookกับGoogleซะแล้ว

อยากรวยต้องขายหนังสือeBookกับGoogleซะแล้ว

อยากรวยต้องขายหนังสือeBookกับGoogleซะแล้ว

เป็นกรณีอิจฉาตาร้อนครับ เห็นGoogleนั้นขายอีบุ๊ค Google Book Search ผู้ซื้อสามารถที่จะอ่าน eBook บนคอมพิวเตอร์

มือถือหรือเครื่องอ่าน eBook ได้หมด ในขณะเดียวกันผู้ผลิตหนังสือก็สามารถที่จะตั้งราคาของตัวเองได้

โดย New York Times เองก็ได้บอกไว้ว่าอเมซอนได้ทำให้ผู้ผลิตหนังสือหลาย ๆ รายโมโหด้วยการที่ขายหนังสือทั้งหมดไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ที่ราคา 9.99 ดอลลาร์ในขณะที่หนังสือเล่มจริง ๆ วางขายในแผงหนังสือทั่วไปที่ราคา 26 ดอลลาร์
ข้อมูลจาก : blognone.com

ลองอ่านดูจะรู้ว่าหนังสือทุกเล่มที่เขียนสามารถดาวน์โหลดมาอ่านได้อย่าง รวดเร็วไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตามบนโลกนี้แล้วก็ง่ายมากๆในการที่จะเข้าถึง หนังสือ ผมมานั่งนึกดูแล้วตลาดหนังสือมันใหญ่มากๆ ขายได้ทั่วโลก ลองสังเกตดูเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์จึงขายดีมากๆเป็นแบบนี้นี่เอง

แล้วถ้าเราเขียนหนังสือเป็นบ้างประมาณว่ามีคนอ่านแน่ๆแล้วฝากขายบน Google Book Search แบบขายไปทั่วโลกเกิดดังขึ้นมา รวยนะครับเนี่ย ลองดูนะหาเงินด้วยการเขียนหนังสือขายบน Google Book Search อยากรวยก็มีโอกาสแล้ว ก่อนอื่นลองไปดูหนังสือมาอ่านเป็นตัวอย่างก่อน